tag:blogger.com,1999:blog-48218168371550297702024-03-13T10:52:09.747-07:00Math for early childhood 491(5)/5เพื่อศึกษา,สืบค้นและแลกเปลี่ยนเรียนรู้การจัดประสบการณ์คณิตศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัยเกศจ้าhttp://www.blogger.com/profile/06540492578023172063noreply@blogger.comBlogger19125tag:blogger.com,1999:blog-4821816837155029770.post-46486591153932968012009-03-05T07:39:00.000-08:002009-03-05T07:41:25.355-08:00ฝรั่ง ( ทำส่งใหม่ )<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhy0n8gZKAuGCe78QyAOPOLzT9dnLiQTmlnnQKVoEHlldbQHDo5pvvitGm8W2UKLSp5UaPvbtEAqVeLfItUQS9inepXQBnWVe-Q1avardQ6mbYLHblH6849BY8Pu63ThEywQa74Tvk-D9_o/s1600-h/12345%5B1%5D.jpg"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5309729192196389186" style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; WIDTH: 400px; CURSOR: hand; HEIGHT: 232px; TEXT-ALIGN: center" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhy0n8gZKAuGCe78QyAOPOLzT9dnLiQTmlnnQKVoEHlldbQHDo5pvvitGm8W2UKLSp5UaPvbtEAqVeLfItUQS9inepXQBnWVe-Q1avardQ6mbYLHblH6849BY8Pu63ThEywQa74Tvk-D9_o/s400/12345%5B1%5D.jpg" border="0" /></a><br /><div></div>เกศจ้าhttp://www.blogger.com/profile/06540492578023172063noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-4821816837155029770.post-36981719934355565902009-03-05T07:31:00.001-08:002009-03-05T07:38:39.308-08:00ฝรั่ง ( งานเก่า )<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjRkkGZuAaIsze7s7E9k0JX6F9JhEoo_uSDKRGaJe06kqmD_uZF1pU_z8AnWiUmdCkkrPP4sc2_i0j4gtRZxzmosjBFWJT1-0iUpgmLt1qKlAzZXdFEMwAK57njSENfhyLHLmcbphFOl2Vg/s1600-h/1234567.jpg"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5309728474743568962" style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; WIDTH: 400px; CURSOR: hand; HEIGHT: 213px; TEXT-ALIGN: center" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjRkkGZuAaIsze7s7E9k0JX6F9JhEoo_uSDKRGaJe06kqmD_uZF1pU_z8AnWiUmdCkkrPP4sc2_i0j4gtRZxzmosjBFWJT1-0iUpgmLt1qKlAzZXdFEMwAK57njSENfhyLHLmcbphFOl2Vg/s400/1234567.jpg" border="0" /></a><br /><div></div>เกศจ้าhttp://www.blogger.com/profile/06540492578023172063noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-4821816837155029770.post-74924382803535327822009-03-04T11:16:00.000-08:002009-03-04T11:30:23.909-08:00นิทานเรื่อง ลูกหมู 4 ตัวกาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ได้มี ลุก หมู 4 ตัว ที่เป็นเพื่อนกันตั้งแต่เด็กอาศัยอยู่บ้านเดียวกัน<br />เช้าวันหนึ่งลูกหมู 4 ตัว เกิดมีความคิดที่จะแข่นขันกันเก็บข้าวโพด<br />ว่าใครจะเก็บได้มากกว่ากัน ถ้าใครเก็บได้มากที่สุดก็จะชนะ<br />ดั้งนั้นลูกหมู ทั้ง 4 ตัวก็ได้แข่งขันกันเก็บข้าวโพด<br />ลูกหมูตัวที่ 1 เก็บได้ 2 ลูก<br />ลูกหมูตัวที่ 2 เก็บได้ 3 ลูก<br />ลูกหมูตัวที่ 3 เก็บได้ 5 ลูก<br />ลูกหมูตัวที่ 4 เก็บได้ 10 ลูก<br />ดังนั้น ลูกหมูตัวที่ 4 ก็เป็นผู้ชนะไปเกศจ้าhttp://www.blogger.com/profile/06540492578023172063noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-4821816837155029770.post-10588941775748656322009-03-04T10:19:00.000-08:002009-03-04T10:20:05.709-08:00สัปดาห์ที่ 2 ในการเรียนวันนี้อาจารย์ได้สอนเรื่องการทำบล็อกและบอกถึงรายระเอียดในการทำบล็กว่าต้องใส่ข้อความอะไรลงไปในบล็อกบ้าง สิ่งที่ได้ในการเรียนวิชานี้ก็คือได้ศึกษาบทความและงานวิจัยสำหรับเด็กปฐมวัย และได้ใช้ความคิดของตัวเองในการแต่งเพลงและแต่งนิทานเกศจ้าhttp://www.blogger.com/profile/06540492578023172063noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-4821816837155029770.post-28565393007360285182009-03-04T10:16:00.000-08:002009-03-04T10:17:33.901-08:00สัปดาห์ที่ 3 ในการเรียนวันนี้ไม่ได้เข้าเรียนค่ะแต่ก็รู้ว่าอาจารย์พูดถึงเรื่องทฤษฎีของเพีย์เจย์<br />เพราะได้เข้าไปดูบล็อกของเพื่อนเกศจ้าhttp://www.blogger.com/profile/06540492578023172063noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-4821816837155029770.post-8067640092838245382009-03-04T10:14:00.001-08:002009-03-04T10:15:41.587-08:00สัปดาห์ที่ 4 ในการเรียนวันนี้อาจารย์ได้แนะนำเรื่องของบล็อกพร้อมบอกให้แก้ไขบล็อกของตัวเองให้ถูกต้องสอนเรื่องการนับจำนวนมาก-น้อยและปริมาณ ขนาด เล็ก-ใหญ่ สูง-เตี้ย ค่าของเงินก็คือสอนให้เด็กรู้ค่าของเงินในการซื่อของ ความเร็วคือการวัดก็คือระหว่าง ไม่ว่าจะเป็นการเดินการวิ่ง อุณหภมิ ร้อน-เย็น-หนาว การหันซ้ายขวานับมาแต่งเป็นเพลงก็ได้ มาตราฐานการวัดในระบบเมตริก - จะให้เด็กได้รู้คำศัพท์ที่สามารถใช้ในชีวิตประจำวัน การวัดเรื่องของเวลา หนึ่งชั่วโมง-หนึ่งเดื่อน-หนึ่งวัน-หนึ่งปี ลักษณะหลักสูตรที่ดีเน้นกระบวนการคิดรวบยอดให้เด็กเรียนรู้เรื่องการใช้ภาษา และอาจารย์ให้แก้ไขเรื่องของบทความคณิตศาสตร์และการแก้ไขเรื่องเกมเกศจ้าhttp://www.blogger.com/profile/06540492578023172063noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-4821816837155029770.post-706208376400905372009-03-04T10:08:00.000-08:002009-03-04T10:11:28.881-08:00สัปดาห์ที่ 5 ในการเรียนหลักในการสอนคณิตศาสตร์ครูปฐมวัยที่ดีนอกจากจะเข้าใจพัฒนาการเด็กธรรมขาติของการเรียนรู้ของเด็ก และขอบข่ายของหลักสูตรอย่างลึกซึ้งแล้ว ยังจะต้องเป็นผู้ที่รู้และเข้าใจหลักการสอนคณิตศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัยอย่างดีด้วย เช่น<br />1.สอนให้สอดคล้องกับชีวิตประจำวัน<br />2.เปิดโอกาสให้เด็กได้รับประสบการณ์ที่ทำให้ พบคำตอบด้วยตัวเอง<br />3.มีเป้าหมายและมีการวางแผนอย่างดี<br />4.เอาใจใส่ในเรื่องการเรียนรู้และลำดับขั้นตอนของการพัฒนาความคิดรวบยอดของเด็ก<br />5.ใช้วิธีการจดบันทึกพฤติกรรมหรือระเบียบพฤติการณ์เพื่อใช้ในการวางแผนการจัดกิจกรรม<br />6.ใช้ประโยชน์จากประสบการณ์เดิมของเด็ก<br />7.รู้จักใช้สถานการณ์ขณะนั้นที่เป็นประโยขน์<br />8.ใช้วิธีการสอดแทรกกับชีวิตจริงเพื่อสอนความคิดรวบยอดที่ยากได้<br />9.ใช้วิธีให้เด็กมีส่วนรวมหรือปฏิบัติการจริงเดียวกับตัวเลข<br />10.วางแผนส่งเสริมให้เด็กเรียนรู้ทั้งที่โรงเรียนและบ้านอย่างต่อเนื่อง<br />11.บันทึกปัญหาการเรียนรู้ของเด็กอย่างสม่ำเสมอเพื่อแก้ไขปรับ<br />12.คาบหนึ่งควรสอนเพียงความคิดรวบยอดเดียว<br />13.เน้นกระบวนการเล่นจากง่ายไปยาก<br />14.ครูควรสอนสัญลักษณ์ตัวเลขหรือเครื่องหมายเมื่อเด็กเข้าใจสิ่งเหล่านั้นแล้วการเตรียมความพร้อมเด็กให้เก่งคณิตศาสตร์นั้นจะต้องฝึกให้เด็กได้พัฒนาการทางสายตาก่อนเป็นอันดับแรกถ้าเด็กสามารถใช้สายตาในการจำแนกจัดแบ่งประเภทแล้ว เด็กจะมีปัญหาด้านการเรียนรู้คณิตศาสตร์ได้หลักการสอนคณิตศาสตร์ ให้กับเด็กปฐมวัยเกศจ้าhttp://www.blogger.com/profile/06540492578023172063noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-4821816837155029770.post-87707673908848226012009-03-04T10:04:00.000-08:002009-03-04T10:06:04.861-08:00การเรียนการสอนวันที่ 19 กุมภาพัน 2552วันนี้อาจารย์ได้พูดถึงการทำแผนว่าแผนที่ส่งไปนั้นผ่านหรือไม่แต่ในกลุ่มของดิฉันทำไม่ถูกต้องเลยต้องทำใหม่อาจารย์บอกให้แก้ตรงขั้นนำและอาจารย์ได้พูดถึงวันที่นัดสอบว่าจะสอบวันไหนเกศจ้าhttp://www.blogger.com/profile/06540492578023172063noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-4821816837155029770.post-20587200176358043292009-03-04T10:00:00.000-08:002009-03-04T10:03:46.193-08:00แผนการสอนแผนการสอนที่ 1<br /><br />เรื่อง ลักษณะของฝรั่ง<br /><br />ผู้สอน นาวสาวทิตติยา เข็มภูเขียว<br /><br />เนื้อหา<br />สอนลักษณะของฝรั่งให้เด็กรู้จักเรื่องสี ขนาด จำนวน การนับ ฝรั่ง<br /><br />อุปกรณ์<br />1.ฝรั่ง 10 ลูก<br />2.ตะกร้า 4 ใบ<br /><br />ขั้นตอนการทำกิจกรรม<br />1. ครูนำฝรั่งขึ้นมา 2 ลูกและถามเด็กๆว่า เด็กรู้จักสิ่งที่ครูนำมาหรือไม่<br />2. ครูถามเด็กๆ ต่อไปว่า ฝรั่ง 2 ลูกนี้มีลักษณะอย่างไร<br />3. แบ่งนักเรียนออกเป็น 2 กลุ่มเท่า ๆ กัน<br />4. ครูวางข้อตกลงและกติกาการเล่นเกมโดย<br />4.1 ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มยืนเรียงแถวตอนลึกโดยมีตะกร้าฝรั่งวางไว้หัวแถว และวางตะกร้าเปล่าออกไป 5 เมตร<br />4.2 ครูเป่านกหวีดให้สัญญาณ แล้วให้เด็กคนที่อยู่หัวแถวแต่และแถวหยิบฝรั่งที่อยู่ในตะกร้าที่อยู่หัวแถวไปใส่ในตะกร้าอีกใบที่เตรียมไว้และวิ่งกับไปหัวแถวใหม่และคนที่ 2 และคนต่อ ๆ ไปก็ทำไปเรื่อยๆ จนกว่าฝรั่งจะหมดตะกร้า<br />4.3 ถ้าใครทำฝรั่งหลุดมือต้องวิ่งกลับมาเอาฝรั่งลูกใหม่มาใส่ตะกร้าแทน<br />4.4 ทีมใดนำฝรั่งใส่ตะกร้าได้หมดก่อนทีมนั้นเป็นฝ่ายชนะ<br />4.5 จากนั้นให้แต่ละทีมนับดูว่าฝรั่งในตะกร้าของตัวเองมีกี่ลูกเกศจ้าhttp://www.blogger.com/profile/06540492578023172063noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-4821816837155029770.post-92105276924374229232009-03-04T09:57:00.000-08:002009-03-04T09:59:43.705-08:00แผนการสอนที่ 2<br /><br />เรื่อง ส่วนประกอบของฝรั่ง<br /><br />ผู้สอน นาวสาวสะกาวเดือน สงค์มา<br /><br />เนื้อหา<br />ให้เด็กรู้ว่าฝรั่งมีส่วนประกอบ คือ เปลือก เนื้อ เมล็ด<br /><br />อุปกรณ์<br />1. ฝรั่ง 2 ลูก<br />2.มีด<br />3.เขียง<br />4.จาน<br /><br />ขั้นตอนการทำกิจกรรม<br />1 .ครูทบทวนการสอนครั้งที่แล้ว (ทบทวนจากคนที่ 1โดยการร้องเพลง)<br />2.ครูใช้คำถามว่าฝรั่งมีส่วนประกอบอะไรบ้าง<br />3.ครูใช้คำถามเช่น ข้างนอกนี้เรียกว่าอะไร<br />4.จบด้วยภาพหรือคำคล้องจองเกศจ้าhttp://www.blogger.com/profile/06540492578023172063noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-4821816837155029770.post-74968110063634089322009-03-04T09:55:00.000-08:002009-03-04T09:56:29.202-08:00แผนการสอนที่ 3<br /><br />เรื่อง ประโยชน์ของฝรั่ง<br /><br />ผู้สอน นาวสาวเกศสิณี เพิ่มญาติ<br /><br />เนื้อหา<br />ให้เด็กรู้ว่าฝรั่งมีประโยชน์และโทษของฝรั่งอย่างไร<br /><br />ขั้นตอนการทำกิจกรรม<br />1.ครูนำเข้าสู่บทเรียน โดยการร้องเพลง<br />2.ครูเล่านิทานเกี่ยวกับประโยชน์และโทษของฝรั่ง<br />3.ครูใช้คำถามกับเด็กว่าฝรั่งสามารถนำไปแปรรูปเป็นอะไรได้บ้างเกศจ้าhttp://www.blogger.com/profile/06540492578023172063noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-4821816837155029770.post-23074510760141899332009-03-04T09:52:00.000-08:002009-03-04T09:54:24.250-08:00แผนการสอนที่ 4<br /><br />เรื่อง สถานที่<br /><br />ผู้สอน นาวสาวจิราภรณ์ ใจกล้า<br /><br />เนื้อหา<br />เด็กพบเจอฝรั่งที่ไหนบ้าง<br /><br />ขั้นตอนการทำกิจกรรม<br />1.ครูพรเด็กๆไปทัศนะศึกษาตามสถานที่ต่างๆ<br />2.ครูสรุปว่าสถานที่ที่พบฝรั่งมี่ที่ไหนบ้าง<br /><br />แผนการสอนครั้งนี้ไมม่ถูกต้องตรงขั้นนำอาจารย์ให้แก้ใหม่เกศจ้าhttp://www.blogger.com/profile/06540492578023172063noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-4821816837155029770.post-6462830007715018382009-03-04T09:38:00.000-08:002009-03-04T09:50:35.666-08:00หน่วยฝรั่ง<br /><br />กิจกรรมฝรั่งหรรษา<br /><br />จำแนก.<br /><br />รูปร่าง<br />-กลม - เรียว – เล็ก - ใหญ่.<br /><br />สี<br />- เขียว - เหลือง - เขียวแก่ - เขียวอ่อน.<br />รสชาติ<br />- หวาน - เปรี้ยว - จืด - หวานอมเปรี้ยว<br /><br />การนับ<br />-ให้เด็กนับฝรั่งในตะกร้า<br />-ให้เด็กนับอุปกรณ์ที่ใชัทำน้ำฝรั่ง<br />-ให้เด็กนับฝรั่งที่มีลักษณะกลม และเรียวตัวเลข<br />- ให้เด็กนำตัวเลขมาใส่หลังจากนับฝรั่ง<br /><br />การจับคู่<br />- ให้เด็กจับคู่ฝรั่งที่มีขนาด เท่ากัน<br />- ให้เด็กจับคู่ฝรั่งที่มีสีต่างกัน<br />- ให้เด็กจับคู่ฝรั่งที่มีสีหมือนกัน<br />- ให้เด็กจับคู่ฝรั่งที่ไม่มีขนาดเท่ากันการจัดประเภท<br />- ให้เด็กแยกฝรั่งที่มีสีเหมือนกัน<br />- ให้เด็กแยกฝรั่งที่มีสีไม่เหมือนกัน<br />- ให้เด็กแยกขนาดของฝรั่ง เล็ก- ใหญ่<br /><br />การเปรียบเทียบ<br />- ให้เด็กเปรียบเทียบฝรั่งที่มีขนาดเล็กและฝรั่งที่มีขนาดใหญ่<br />-ให้เด็กเปรียบเทียบสีของฝรั่ง สีเขียว – เหลือง<br />- ให้เด็กเปรียบเทียบผิวของฝรั่ง ขุรขะ – เรียบ<br />- การจัดลำดับ<br />- ให้เด็กเรียงลำดับฝรั่งที่มีขนาดเล็กสุดไปหาฝรั่งที่มีขนาดใหญ่สุด<br />- ให้เด็กเรียงลำดับฝรั่งที่มีขนาดใหญ่สุดไปหาฝรั่งที่มีขนาดเล็กสุดรูปทรงและเนื้อที่<br />- ให้เด็กแยกฝรั่งที่ลักษณะกลม - เรียว<br />การวัด<br />- ให้เด็กเปรียบเทียบฝรั่งลูกไหนหนัก ลูกไหนเบากว่ากัน<br />- ให้เด็กวัดเส้นรอบลูกฝรั่ง ว่าแต่ละลูกมีขนาดเท่าได<br />เซต<br />- ครูบอกนักเรียนว่าฝรั่งมี 2 ประเภท คือฝรั่งธรรมดาและฝรั่งขี่นกเศษส่วนการทำตามแบบ หรือรวดราย<br />- ให้แด็กแยกฝรั่งที่มีผิวเรียบและผิวขุรขะออกจากกัน<br />- ให้เด็ก 4 คนต่อฝรั่ง 1 ลูก และแบ่งให้เท่าๆกันการอนุรักษ์<br />- ให้เด็กเสนอว่าจะเก็บฝรั่งแบบใดคือจะแช่อิ่ม จะดอง หรือ หรือจะเก็บไว้ในที่เย็นเกศจ้าhttp://www.blogger.com/profile/06540492578023172063noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-4821816837155029770.post-56239442232567392592009-03-03T02:32:00.000-08:002009-03-04T09:30:14.054-08:00<a name="1571112662024306173"></a><br />หน่วยผลไม้<br /><br />กิจกรรมหรรษา<br /><br />อุปกรณ์<br />1.ฝรั่ง 10 ลูก<br />2.ตะกร้า 4 ใบ<br /><br />ขั้นตอนตอนการทำกิจกรรม<br />1. ครูนำฝรั่งขึ้นมา 2 ลูกและถามเด็กๆว่า เด็กรู้จักสิ่งที่ครูนำมาหรือไม่<br />2. ครูถามเด็กๆ ต่อไปว่า ฝรั่ง 2 ลูกนี้มีลักษณะอย่างไร<br />3. แบ่งนักเรียนออกเป็น 2 กลุ่มเท่า ๆ กัน<br />4. ครูวางข้อตกลงและกติกาการเล่นเกมโดย<br />4.1 ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มยืนเรียงแถวตอนลึกโดยมีตะกร้าฝรั่งวางไว้หัวแถว และวางตะกร้าเปล่าออกไป 5 เมตร<br />4.2 ครูเป่านกหวีดให้สัญญาณ แล้วให้เด็กคนที่อยู่หัวแถวแต่และแถวหยิบฝรั่งที่อยู่ในตะกร้าที่อยู่หัวแถวไปใส่ในตะกร้าอีกใบที่เตรียมไว้และวิ่งกับไปหัวแถวใหม่และคนที่ 2 และคนต่อ ๆ ไปก็ทำไปเรื่อยๆ จนกว่าฝรั่งจะหมดตะกร้า<br />4.3 ถ้าใครทำฝรั่งหลุดมือต้องวิ่งกลับมาเอาฝรั่งลูกใหม่มาใส่ตะกร้าแทน<br />4.4 ทีมใดนำฝรั่งใส่ตะกร้าได้หมดก่อนทีมนั้นเป็นฝ่ายชนะ<br />4.5 จากนั้นให้แต่ละทีมนับดูว่าฝรั่งในตะกร้าของตัวเองมีกี่ลูก<br /><br />สมาชิกในกลุ่ม<br />1.นางสาวเกศสิณี เพิ่มญาติ<br />2.นางสาวจิราภรณ์ ใจกล้า<br />3.นางสาวสะกาวเดือน สงค์มา<br />4.นางสาวทิตติยา เข็มภูเขียว<br /><br />ในการทำกิจกรรมนี้ทำส่งอาจารย์แล้วแต่ทำผิดอาจารย์ให้ทำส่งใหม่ค่ะ<br />เขียนโดย jirapon ที่ <a class="timestamp-link" title="permanent link" href="http://jirapon-kai043.blogspot.com/2009/01/1.html" rel="bookmark">12:18 ก่อนเที่ยง</a> <a class="comment-link" onclick="" href="https://www.blogger.com/comment.g?blogID=6536135669753513058&postID=1571112662024306173">0 ความคิดเห็น</a> <a title="แก้ไขบทความ" href="http://www.blogger.com/post-edit.g?blogID=6536135669753513058&postID=1571112662024306173"></a><br />วันเสาร์, มกราคม 10, 2009<br /><a name="7414359060026534541"></a><br /><a href="http://jirapon-kai043.blogspot.com/2009/01/6.html">สัปดาห์ที่ 6 ในการเรียน</a><br />งานการไปสังเกตุเด็ก โรงเรียนเกษมพิทยา เป็นเวลา 2 อาทิตย์มีเพลงคณิตศาสตร์มาฝากด้วยค่ะเพลง นับเลขนับหนึ่ง เป็นกบกระโดด นับสอง ว่ายน้ำเหมือนปลานับสาม วิ่งควบเหมือนม้า นับสี่ บินเหมือนผีเสื้อ(ร้องซ้ำ 3 รอบ)นับสี่....... นับสาม....... นับสอง....... นับหนึ่ง.......เพลง เลขาคณิตตบมือ ตบมือ ส่ายสะโพกโบกมือไปมาตบมือ ตบมือ เดินเป็นรูปสี่เหลื่ยมเดินหน้า ถอยหลังส่ายสะโพกโบกมือไปมาเดินหน้า ถอยหลัง เดินเป็นรูปวงกลมและในชั้นเรียนของเด็กๆยังมีการการเอาคณิตศาสตร์มาบูรณาการในชั้นเรียนเช่น มีการเขียนตัวเลขในวันที่ มีการนับหลอดแทนตัวเลขในวันที่นั้นเกศจ้าhttp://www.blogger.com/profile/06540492578023172063noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-4821816837155029770.post-5686973479774466042009-03-03T02:27:00.000-08:002009-03-03T02:28:11.466-08:00<a name="7414359060026534541"></a><br /><a href="http://jirapon-kai043.blogspot.com/2009/01/6.html">สัปดาห์ที่ 6 ในการเรียน</a><br />งานการไปสังเกตุเด็ก โรงเรียนเกษมพิทยา เป็นเวลา 2 อาทิตย์มีเพลงคณิตศาสตร์มาฝากด้วยค่ะเพลง นับเลขนับหนึ่ง เป็นกบกระโดด นับสอง ว่ายน้ำเหมือนปลานับสาม วิ่งควบเหมือนม้า นับสี่ บินเหมือนผีเสื้อ(ร้องซ้ำ 3 รอบ)นับสี่....... นับสาม....... นับสอง....... นับหนึ่ง.......เพลง เลขาคณิตตบมือ ตบมือ ส่ายสะโพกโบกมือไปมาตบมือ ตบมือ เดินเป็นรูปสี่เหลื่ยมเดินหน้า ถอยหลังส่ายสะโพกโบกมือไปมาเดินหน้า ถอยหลัง เดินเป็นรูปวงกลมและในชั้นเรียนของเด็กๆยังมีการการเอาคณิตศาสตร์มาบูรณาการในชั้นเรียนเช่น มีการเขียนตัวเลขในวันที่ มีการนับหลอดแทนตัวเลขในวันที่นั้นเกศจ้าhttp://www.blogger.com/profile/06540492578023172063noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-4821816837155029770.post-78947290857668661462009-01-21T23:58:00.000-08:002009-01-22T00:15:39.533-08:00หลักการสอนคณิตศาสตร์<br />ครูปฐมวัยที่ดีนอกจากจะเข้าใจพัฒนาการเด็กธรรมชาติของการเรียนรู้<br />1.สอนให้สอดคล้องกับชีวิตประจำวัน<br />2.เปิดโอกาสให้เด็กได้รับประสบการณ์ที่ทำให้พบคำตอบด้วยตนเอง<br />3.มีเป้าหมายและการวางแผนอย่างดี<br />4.เอาใจใส่ในเรื่องการเรียนรู้และลำดับขั้นของการพัฒนาความคิดรวบยอดของเด็ก<br />5.ใช้วิธีการจดบันทึกพฤติกรรมหรืระเบียบพฤติการณ์เพื่อใช้ในการวางแผนและจัดกิจกรรม<br />6.ใช้ประโยชน์จากประสบการณ์เมของเด็ก<br />7.รู้จักใช้สถานการณ์ขณะนั้นให้เป็นประโยชน์<br />8.ใช้วืธีการสอดแทรกกับชีวิตจริงเพื่อสอนความคิดรวบยอดยากๆ<br />9.เกศจ้าhttp://www.blogger.com/profile/06540492578023172063noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-4821816837155029770.post-22717210177129279772009-01-21T23:41:00.000-08:002009-01-21T23:57:32.282-08:00ความรู้สึกที่อยากจะบอก<span style="font-family:arial;">ตอนนี้เรียนยากมากงานก็เยอะทำอะไรไม่ค่อยจะทันเลย</span><br /><span style="font-family:arial;">อยากจะบอกว่าไม่เคยเข้าเรียนเลยทำงานไม่ทันเพื่อน</span><br /><span style="font-family:arial;"></span>เกศจ้าhttp://www.blogger.com/profile/06540492578023172063noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-4821816837155029770.post-50712587953581428052008-11-26T23:55:00.000-08:002008-11-26T23:58:51.356-08:00เพลงคณิตศาสตร์<span style="color:#33cc00;">โน้นนกบินมาลิบ ลิบ</span><br /><span style="color:#6600cc;">นกกระจิบ1 2 3 4 5</span><br /><span style="color:#cc0000;">อีกฝูงบินล่องลอยมา</span> <span style="color:#3366ff;">6 7 8 9 10</span> <span style="color:#ffcc33;">ตัว</span>เกศจ้าhttp://www.blogger.com/profile/06540492578023172063noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-4821816837155029770.post-16703061392188705512008-11-26T23:53:00.000-08:002009-03-04T09:07:08.735-08:00บทความ ทางคณิตศาสตร์ทักษะคณิตศาสตร์" สร้างได้...<br />เมื่อพูดถึงคณิตศาสตร์ ผู้ใหญ่บางคนได้ฟัง ยังหนาวๆ ร้อนๆ แล้วสำหรับเด็กเล็กๆ การเรียนรู้เรื่องนี้จะเป็นสิ่งที่ยากเกินไปสำหรับเขาหรือไม่ ? คำตอบของคำถามข้างต้นนั้นคือ "ไม่ยากหรอกค่ะ" ถ้าเรารู้จักเนื้อหาและวิธีในการส่งเสริมทักษะทางคณิตศาสตร์ให้กับเด็ก ซึ่งเริ่มต้นได้ง่ายๆ จากสิ่งรอบตัวเด็กนี่เอง... ทักษะทางคณิตศาสตร์ คือ ? ก่อนที่จะค้นหาวิธีส่งเสริมต่างๆ ให้กับเด็ก เราควรจะรู้ว่าทักษะทางคณิตศาสตร์นั้นหมายถึงเรื่องอะไรบ้าง เพราะมีหลายคนที่เข้าใจว่าคณิตศาสตร์ คือ เรื่องของจำนวนและตัวเลขเท่านั้น แต่ความจริงแล้วคณิตศาสตร์มีเนื้อหาที่กว้างกว่านั้นมาก เพราะยังหมายรวมถึงรูปทรง การจับคู่ การชั่งตวงวัด การเปรียบเทียบ การจัดลำดับ การจัดประเภท เป็นต้น สิ่งเหล่านี้ก็คือคณิตศาสตร์เช่นเดียวกันเริ่มได้เมื่อไหร่ดี เมื่อเรารู้ถึงเนื้อหาในเรื่องต่างๆ ของคณิตศาสตร์แล้ว เราจะพบว่าการส่งเสริมทักษะคณิตศาสตร์สามารถเริ่มได้ตั้งแต่เด็กลืมตาดูโลก เมื่อลูกมองเห็นสีสันของโมบายที่คุณแม่แขวนเอาไว้ให้เหนือเปล เขาก็จะมองเห็นความแตกต่างของสีสัน บ้านที่จัดสิ่งแวดล้อมแบบนี้ให้ลูก ก็ถือว่าได้ส่งเสริมทักษะคณิตศาสตร์ให้กับเขาแล้ว เพราะหนูน้อยต้องได้สะสมประสบการณ์เหล่านี้ขึ้นมา เพื่อเป็นพี้นฐานการเรียนรู้คณิตศาสตร์ที่ผู้ใหญ่จัดหมวดหมู่ไว้ในอนาคต ถ้าเราไม่ตีกรอบว่าคณิตศาสตร์ คือ จำนวนและตัวเลขเท่านั้น เราก็สามารถส่งเสริมลูกได้ตั้งแต่แรกเกิด ผ่านการจัดสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสม ความเข้าใจที่แตกต่าง การเรียนรู้ทักษะทางคณิตศาสตร์ของเด็กแต่ละวัยย่อมแตกต่างกันไป เราสามารถส่งเสริมเนื้อหาทางคณิตศาสตร์ได้ทุกด้านแต่ต่างกันตรงวิธีการค่ะ สำหรับเด็กวัย 3- 4 ขวบ จำเป็นต้องเรียนคณิตศาสตร์ผ่านสิ่งที่เป็นรูปธรรมมากเพราะเขายังไม่เข้าใจสิ่งที่เป็นนามธรรม เช่น ให้เด็กสามขวบ ดูตัวเลข 2 กับ 3 แล้วเอาเครื่องหมายมากกว่าน้อยกว่าไปให้เขาใส่ เขาก็จะงงแน่นอน ว่าเจ้าสามเหลี่ยมปากกว้างนี้คืออะไร เด็กวัยนี้การเรียนเรื่องจำนวนตัวเลข ต้องผ่านสิ่งของที่เป็นรูปธรรมจับต้องได้ แต่ถ้าเป็นพี่ 5 หรือ 6 ขวบ จะเริ่มเข้าใจสิ่งที่เป็นนามธรรมหรือสัญลักษณ์ต่างๆ ได้แล้วเรียนรู้ได้จากสิ่งใกล้ตัว หลักของการส่งเสริมทักษะทางคณิตศาสตร์ให้เด็ก คือ เรียนรู้จากรูปธรรมไปนามธรรม เรียนรู้จากสิ่งที่ใกล้ตัวไปสู่สิ่งที่ไกลตัว คนไทยโบราณจะมีเพลงร้องเกี่ยวกับอวัยวะต่างๆ ซึ่งเป็นการเริ่มต้นเรียนเรื่องง่ายๆ ก็คือ การเรียนรู้จากอวัยวะของตัวเองนั่นเอง เช่น ตาสองตา จมูกหนึ่งจมูก หูสองหู เมื่อเด็กเกิดมานิ้วมือก็รองรับเลขฐานสิบให้เขาได้เรียนรู้ ฯลฯ สิ่งเหล่านี้เป็นการเรียนคณิตศาสตร์ในเรื่องจำนวนและตัวเลขโดยไม่รู้ตัว หรือบ้านไหนที่คุณแม่จัดระเบียบ มีการแยกประเภทเสื้อผ้า เช่น ลิ้นชักชั้นล่างใส่กางเกง ชั้นสองใส่เสื้อกล้าม ชั้นสามใส่ผ้าเช็ดตัว ฯลฯ ลูกบ้านนี้ก็จะได้เรียนคณิตศาสตร์เรื่องการจัดกลุ่ม การแยกประเภทไปด้วยเช่นกัน จึงเป็นเรื่องที่น่าเสียดายค่ะที่พ่อแม่บางคนพยายามค้นหาอุปกรณ์ หรือกลวิธียากๆ ในการสอนเด็ก แต่กลับละเลยสิ่งที่อยู่ใกล้ตัวเหล่านี้ไปเด็กวัยนี้เรียนรู้จากการเล่นและการกระทำ เราจึงควรส่งเสริมทักษะคณิตศาสตร์ให้อยู่ในชีวิตประจำวันของเขา เช่น เวลาคุณแม่จัดโต๊ะอาหารก็เรียกเจ้าตัวน้อยมาช่วยจัดด้วย ว่านี่คือจานคุณพ่อ จานคุณแม่ จานพี่ เขาก็จะได้เรียนรู้คณิตศาสตร์เรื่องการจับคู่หนึ่งต่อหนึ่ง เป็นต้น กิจวัตรประจำวันของเด็กมีคณิตศาสตร์ซ่อนอยู่มากมายค่ะ แม้แต่งานบ้านง่ายๆ ก็เป็นของวิเศษที่สามารถส่งเสริมคณิตศาสตร์ให้ลูกได้ คุณพ่อคุณแม่ต้องรู้จักดึงสิ่งเหล่านี้ออกมาให้ลูกเรียนรู้ จัดสภาพแวดล้อมหรือกิจกรรมแล้วเปิดโอกาสให้เขามาช่วยกันคิดขอเพียงแค่เข้าใจ เมื่อเด็กเข้าเรียนอนุบาลจะเริ่มมีแบบฝึกหัดที่เป็นระบบสัญลักษณ์เข้ามา สิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ต้องสังเกตลูก คือ ลูกเรานั้นมีความพร้อมที่จะรับระบบสัญลักษณ์เหล่านั้นหรือยัง ถ้ายังไม่พร้อมก็ไม่ต้องบังคับว่าลูกต้องเข้าใจตอนนี้นะคะ เพราะบางครั้งลูกของเราอาจจะยังคงต้องการเรียนรู้จากสิ่งที่จับต้องได้ เราก็ควรช่วยเหลือและส่งเสริม ยกตัวอย่างนะคะ เมื่อมีการบ้านที่ต้องเติมเครื่องหมายมากกว่าหรือน้อยกว่า แล้วมีตัวเลข 5 กับ 6 เราอาจช่วยเตรียมสื่อให้ลูกนับประกอบการทำการบ้านประเภทเม็ดกระดุม ก้อนหิน ฯลฯ ให้เขาเห็นเป็นรูปธรรมว่ามันมากกว่าจริงๆ เพราะฉะนั้นสัญลักษณ์ที่เหมือนปากกว้างๆ นี้จะต้องหันหน้าไปกองกระดุมหรือกองก้อนหินที่มากกว่า เป็นต้น ความพร้อมของเด็กย่อมแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล คุณพ่อคุณแม่เองต้องเป็นคนคอยสังเกตว่าลูกเราอยู่ในระดับใด พร้อมมากแค่ไหน ไม่มีประโยชน์ที่จะเร่งลูกในยามที่เขายังไม่เข้าใจระบบสัญลักษณ์นะคะ การที่เราไปเร่งเด็กอาจทำให้เขามีความฝังใจว่าคณิตศาสตร์นั้นมันยากแสนยาก และไม่อยากจะเรียนรู้เรื่องคณิตศาสตร์อีก<br /><span style="color:#00cccc;">ข้อมูลจาก : นิตยสารรักลูก ฉบับที่ 284 เดือนกันยายน พ.ศ.2549</span>เกศจ้าhttp://www.blogger.com/profile/06540492578023172063noreply@blogger.com0